หลังเรียนการเมืองกับการนำนโยบายไปปฏิบัติ

          หลังจากที่เรียน วิชาการนี้จบแล้ว มีข้อแนะว่านักศึกษาควรศึกษา ทบทวนด้วยตนเองเพิ่มเติม   เพื่อเตรียมตัวสอบปลายภาค  จำนวน  50  คะแนน ดังนี้

         1.  ข้อสอบข้อเขียน (ถูก-ผิด) จำนวน 20 ข้อๆละ 2 คะแนน   รวม 40 คะแนน  ทุกข้อต้องเขียนอธิบายทุกข้อ(หากไม่อธิบายไม่มีคะแนน)
         2.  ข้อสอบประเภทเขียนรายละเอียดในผังความคิด  1  ภาพ  10  คะแนน

**  รวมทั้งสิ้น   50  คะแนน ***


เนื้อหาที่แนะนำมีดังนี้
       1. อ่านบทที่ 5-7
       2. พิจารณาแผนผัง และ ตัวแบบ  ** ควรให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษด้วย**
       3. ควรศึกษา และให้ความสำคัญกับข่าวสารการเมืองในขณะนี้


การเตรียมตัวสอบ
  เืพื่อไม่ให้ถูกเพ่งเล็งจากกรรมการคุมสอบ  นักศึกษาควรเตรียมความพร้อมดังนี้
       1.  ปากกา  หรือเครีองเขียนที่จะใช้ ควรเตรียมให้พร้อม  (การหันไปหยิบยืมจากเพื่อนยิ่งสร้างความกดดันให้กับตัวเอง เพราะจะถูกจับตาจากกรรมการคุมสอบ)
       2.  การแต่งกายให้แต่งกายให้ถูกระเบียบของมหาวิทยาลัย หากเกิดกรณีที่ กรรมการคุมสอบโทรหาอาจารย์  แล้วแจ้งถึงพฤติกรรมการแต่งกายของนักศึกษา อ.จะขอให้เป็๋นอำนาจของกรรมการในการพิจารณาว่าจะให้เข้าสอบ   เช่น หากกรรมผู้กำกับการสอบไม่อนุญาตให้ นศ.เข้าสอบ อ.จะยึดตามนั้น และจะไม่อนุญาตให้นักศึกษาสอบย้อนหลังโดยเด็ดขาด  (นศ.ต้องติด F)
       3.  กรณีที่กรรมการคุมสอบ  พบทุจริต หรือ อื่นๆที่ส่อถึงการทุจริต และได้แจ้งต่ออาจารย์   จะปรับให้ ตกในวิชานี้ทันที  โดยจะไม่ขอรับทราบเหตุผล

***  ทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเตรียมความพร้อมที่จะเป็นพลเมืองที่พึงประสงค์ของชาติ และ ของอาเซียน  หากนักศึกษามีพฤติกรรมดังกล่าวจริง  ต้องพร้อมที่จะรับกับกระทำของตนเอง  และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ (เรียนใหม่)***

ความสัมพันธ์ของระบบการเมืองระบบบริหารและนโยบายสาธารณะ

ตามทฤษฎีการแบ่งอำนาจอธิปไตยของ Montesqieu จำแนกอำนาจอธิปไตยออกเป็น 3ฝ่าย คือ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการนั้น เป็นสิ่งที่ประเทศต่างๆยึดถือปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนขอบเขตอำนาจหน้าที่ของอำนาจแต่ละฝ่ายจะเป็นเช่นใดนั้น Gabriel Almond กับJames Coleman ได้จำแนกหน้าที่ที่ระบบการเมืองหนึ่ง ๆ ต้องถือปฏิบัติ มี 3 ประการ

ความสัมพันธ์ของระบบการเมือง ระบบการบริหาร และนโยบายสาธารณะ

การเมือง การบริหาร และนโยบายสาธารณะ มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการบริหารและการเมือง ระบบการเมืองจะเป็นระบบใหญ่ที่ครอบคลุมระบบบริหารแต่ในทางปฏิบัติอาจไม่ชัดเจน บางช่วงเวลาการเมืองต้องอาศัยนักบริหารซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านระบบการเมือง (political system)ในปัจจุบัน นักวิชาการ ส่วนใหญ่มักนิยมใช้ทฤษฎีระบบมาอธิบายการเมือง David Easton ได้นำเสนอการวิเคราะห์ของระบบการเมือง

แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเมือง

ทฤษฎีระบบ

ทฤษฎีระบบของ เดวิด อีสตัน มีฐานคติที่สำคัญว่าการเมืองดำรงอยู่เป็นอย่างมีระบบเสมือนหนึ่งชีวิตการเมือง (Political Life) กล่าวคือ ระบบการเมือง ประกอบด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทั้งองค์ประกอบภายใน อันได้แก่ สถาบันการเมืองต่างๆ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นองค์ประกอบภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของระบบการเมือง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมทางการเมือง กับสภาพแวดล้อม มีลักษณะเป็นพลวัต (Dynamic system) มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ก่อให้เกิดลักษณะที่เรียกว่า “ชีวิตการเมือง”